ร้อยเรื่องเมืองระยอง

🟫 คลังงานวิจัยเมืองระยอง

หน้าคลังงานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ “ร้อยเรื่องเมืองระยอง” จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวม จัดเก็บ และเผยแพร่ งานวิจัย บทความ และเอกสารทางวิชาการ ที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดระยองในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และอัตลักษณ์ของชุมชน

เพจนี้อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ ชมรมร้อยเรื่องเมืองระยอง ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มบุคคลที่มีความสนใจและหวงแหนในคุณค่าของอดีตของจังหวัดระยอง แนวคิดเริ่มต้นจาก อาจารย์เฉลียว ราชบุรี ผู้ริเริ่มการรวบรวมข้อมูล เอกสาร ภาพถ่าย และเรื่องเล่าจากคนรุ่นก่อน เพื่อรักษาความทรงจำของเมืองไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมแก่คนรุ่นหลัง

คลังงานวิจัยนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อเป็น แหล่งเก็บข้อมูลถาวรและแหล่งเรียนรู้สาธารณะ ที่เปิดกว้างให้ทุกคนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้เกี่ยวกับเมืองระยองได้อย่างเป็นระบบ โดยเนื้อหาที่รวบรวมไว้ประกอบด้วย

  • งานวิจัยและบทความทางวิชาการที่ว่าด้วยประวัติศาสตร์และพัฒนาการของเมืองระยองในแต่ละยุค

  • งานศึกษาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และขนบธรรมเนียมที่สืบทอดกันมา

  • งานด้านศิลปะพื้นบ้าน ดนตรี การแสดง และศิลปินที่มีบทบาทในพื้นที่

  • เอกสารเกี่ยวกับอาหารท้องถิ่น หัตถกรรม วิถีชีวิต และประเพณีที่สะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชน

  • บันทึกและงานวิจัยเกี่ยวกับบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของจังหวัด

  • รายงานหรือโครงการวิจัยจากสถาบันการศึกษาในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับชุมชนระยอง

เรามุ่งหวังให้หน้านี้เป็นพื้นที่กลางในการเก็บข้อมูลทางวิชาการที่มีคุณค่า เพื่อสนับสนุนการศึกษาค้นคว้า การอนุรักษ์ และการสืบสานเรื่องราวของเมืองระยองอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นช่องทางสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปที่สนใจเรียนรู้รากเหง้าและเรื่องราวของบ้านเกิด

คลังงานวิจัยเมืองระยอง จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่เก็บเอกสาร แต่ยังเป็น “พื้นที่ความรู้” ที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน และเปิดประตูสู่การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ เพื่อสืบสานเสียงและเรื่องราวของเมืองระยองให้คงอยู่คู่ชุมชนตลอดไป

การพัฒนาพื้นที่ย่านการค้าชุมชนเก่า กรณีศึกษาถนนยมจินดา จังหวัดระยอง

การพัฒนาพื้นที่ย่านการค้าชุมชนเก่า กรณีศึกษาถนนยมจินดา จังหวัดระยอง

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงด้านกายภาพ เศรษฐกิจ และสังคมของถนนยมจินดา จังหวัดระยอง ผลการศึกษาพบว่าการพัฒนาคมนาคมทางบกทำให้ย่านซบเซา อาคารทรุดโทรม และมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่มาก จึงเสนอแนะให้พัฒนาพื้นที่พาณิชยกรรมตามวิถีชีวิตดั้งเดิม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และการอนุรักษ์ชุมชนเก่า

โครงการวิจัยและพัฒนาพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ระยะที่ 2 ปีที่ 1

โครงการวิจัยและพัฒนาพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ระยะที่ 2 ปีที่ 1 วิจัยและพัฒนาพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น กรณีศึกษา

รายงานวิจัยนี้ศึกษาพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเพื่อเข้าใจการทำงานร่วมกับชุมชน พบว่าพิพิธภัณฑ์สะท้อนวัฒนธรรมและชีวิตประจำวันของชาวบ้าน มีความหมายเชื่อมโยงกับรากฐานชีวิตในท้องถิ่น การมีส่วนร่วมของชุมชนทำให้พิพิธภัณฑ์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและสร้างความเข้าใจร่วมระหว่างชาวบ้านกับผู้บริหาร.

บทที่ 6 - สถาปัตยกรรมในวัดภาคตะวันออก

บทที่ 6 – สถาปัตยกรรมในวัดภาคตะวันออก

สถาปัตยกรรมวัดในภาคตะวันออกที่ได้รับอิทธิพลจากอยุธยา-รัตนโกสินทร์ แบ่งประเภท สถูปเจดีย์ ได้เป็น 3 รูปแบบหลัก: ปรางค์ ยอดมนขนาดกลาง (ไม่เกิน 20 ม.) เช่น ที่วัดป่าบางกะจะ; เจดีย์ย่อมุม ซึ่งเป็นได้ทั้งทรงปรางค์หรือเจดีย์ประธาน/รวมกลุ่ม เช่น ที่วัดสน ฉะเชิงเทรา และ เจดีย์ทรงกลม ที่มีทั้งขนาดใหญ่เป็นองค์ประธานและขนาดเล็กเป็นบริวาร เจดีย์บริวาร เช่น ที่วัดสัตหีบ ชลบุรี.

การสร้างสรรค์ชุดการแสดง “ระบำเยื่อเคยระยอง

การสร้างสรรค์ชุดการแสดง “ระบำเยื่อเคยราย็อง”

ชื่อภาษาอังกฤษ: The Invention of Yuea Kueay Rayong Dance
ผู้วิจัย: ประกิจ พงษ์พิทักษ์ (Prakit Ponkpitak)
ปีที่จัดทำ: พ.ศ. 2556

การวิจัยเรื่อง “ระบำเยื่อเคยระยอง” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติและขั้นตอนการทำเยื่อเคยหรือกะปิของชุมชนหมู่ 3 ตำบลหนองละลอก จังหวัดระยอง แล้วนำมาสร้างสรรค์เป็นชุดการแสดงพื้นบ้าน “ระบำเยื่อเคยระยอง” ผลการศึกษาพบว่าการทำกะปิในพื้นที่นี้มีการสืบทอดมากว่า 100 ปี ใช้วัตถุดิบจากกุ้งเคยในทะเลระยอง ผู้วิจัยได้ถ่ายทอดอัตลักษณ์ดังกล่าวผ่านการแสดง 3 ช่วง คือ วิถีทำเยื่อเคย การสืบสานภูมิปัญญา และความรื่นเริงของชาวระยอง พร้อมประพันธ์เพลง เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์แสดงจากของใช้ท้องถิ่น เช่น ไหเคลือบ กระบุง และกระจาดใส่เคย.

พิธีกรรมและความเชื่อในการแสดงรำสวดของคณะอรชุน ลูกสุนทรภู่ จังหวัดระยอง

พิธีกรรมและตวามเชื่อในการแสดงรำสวดของคณะอรชุน ลูกสุนทรภู่ จังหวัดระยอง

ชื่อภาษาอังกฤษ: Rituals and Beliefs of Rum Suad Performance by Orachun Luksunthornphu Troupe in Rayong Province
ผู้วิจัย: มุกดา การินทร์ (Mukda Karin)
อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก: ศ. ดร.บุษกร บิณฑสันต์
สาขาวิชา: ดุริยางค์ไทย
ปีการศึกษา: 2564

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาที่มาของการแสดงรำสวด และวิเคราะห์พิธีกรรมและความเชื่อของคณะ “อรชุน ลูกสุนทรภู่” จังหวัดระยอง ซึ่งมี ครูทรงศักดิ์ บรรจงกิจ เป็นหัวหน้าคณะ การแสดงใช้บทสวดจากวรรณคดีไทย มีเครื่องดนตรีประกอบ 4 ชนิด ได้แก่ ตะโพน กลองบองโก้ ฉิ่ง และกรับ พิธีกรรมสำคัญคือ “การสวดสั่งเปรต” เพื่อส่งดวงวิญญาณผู้ตายสู่ภพภูมิที่ดี และเป็นกุศโลบายให้คนมีชีวิตตระหนักในบาปบุญคุณโทษ รวมถึงพิธีไหว้ครูประจำปีที่สะท้อนความกตัญญูและความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งยังสืบทอดมาถึงปัจจุบัน.

รำสวดคณะครูสาคร ประจง อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง

รําสวดคณะครูสาคร ประจง อําเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง

ชื่อภาษาอังกฤษ: Rum Suad of Kru Sakhon Prajong Troupe from Ban Khai District in Rayong Province
ผู้วิจัย: อนุวัฒน์ บิสสุริ, ขำคม พรประสิทธิ์
ปีที่ทำ: กันยายน 2559 – กุมภาพันธ์ 2560

งานวิจัยนี้ศึกษาการรำสวดของคณะครูสาคร ประจง ซึ่งเป็นการแสดงพื้นบ้านพัฒนามาจากการสวดพระมาลัยและสวดคฤหัสถ์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา การแสดงเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตคนระยอง ใช้ในงานอวมงคลเพื่อคลายความโศกเศร้าและสร้างอารมณ์สนุกสนาน มีเอกลักษณ์ในการผสมบทสวดกับบทเพลงวรรณคดีหรือบทประพันธ์ใหม่ พร้อมปรับจังหวะและใช้เครื่องดนตรีโทน ฉิ่ง กรับมากกว่าคู่สอง ทำให้การรำมีสีสันและชีวิตชีวา มีทั้งหมด 38 กระสวน แบ่งเป็น 3 ประเภทตามลักษณะจังหวะ ผู้รำสามารถรำและร้องไปพร้อมกัน งานวิจัยเน้นการสืบทอดและรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมพื้นบ้านของชุมชนระยอง

วิเคราะห์ดนตรีประกอบการแสดงหนังตะลุงคณะ ส. ศิษย์กระบกขึ้นผึ้ง จังหวัดระยอง

วิเคราะห์ดนตรีประกอบการแสดงหนังตลุงคณะ ส ศิษย์กระบกขึ้นผึ้ง จังหวัดระยอง

ชื่อภาษาอังกฤษ: An Analysis of Music Performance Accompanying Sor Sitkrabokkhuenphueang’s Shadow Theatre Troupe in Rayong Province
ผู้วิจัย: พงษกร สุธรรม
อาจารย์ที่ปรึกษา: รศ.ดร.ขำคม พรประสิทธิ์
ปีการศึกษา: 2555

การวิจัยนี้ศึกษาดนตรีประกอบการแสดงหนังตะลุงคณะส. ศิษย์กระบกขึ้นผึ้ง  จังหวัดระยอง เพื่อวิเคราะห์รูปแบบและบทบาทของดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดง พบว่าดนตรีมีส่วนสำคัญในการกำหนดอารมณ์และจังหวะของการแสดง ช่วยสร้างความสนุกสนานและสื่อสารอารมณ์ของตัวละครแก่ผู้ชม วงดนตรีประกอบมีลักษณะเฉพาะตามท้องถิ่นภาคตะวันออก โดยใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้านผสมกับเครื่องดนตรีไทย เช่น กลอง ฉิ่ง ฉาบ และระนาด การแสดงหนังตะลุงในระยองยังคงรักษาขนบประเพณีเดิมไว้ พร้อมพัฒนาให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบันเพื่อความต่อเนื่องของศิลปวัฒนธรรมไทย.

ราย็อง (ระยอง): เมืองของชนเผ่าบนเส้นทางอารยธรรมฝั่งทะเลตะวันออก

ราย็อง ระยอง เมืองชองบนเส้นทางอารยธรรมฝั่งทะเลตะวันออก

ชื่อภาษาอังกฤษ: Rayong: A City of Chong Ethnic Groups in Eastern Coast Civilization Routes
ผู้วิจัย: กำพล จำปาพันธ์ (Kampol Champapan)
สถาบัน: Ph.D. Dissertation Program in History, Faculty of Human Science, Chiangmai University

สรุปงานวิจัย:
งานวิจัยนี้ศึกษาการพัฒนาและลักษณะเมืองระยอง โดยเน้นการผสมผสานระหว่างชุมชนชนเผ่าชองในท้องถิ่นกับวัฒนธรรมที่มาจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาและภาคกลางของไทย การผสมผสานนี้สร้างเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและสังคมเฉพาะของระยอง การศึกษาแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเมืองระยองกับเส้นทางการคมนาคมและการติดต่อทางวัฒนธรรมกับเมืองต่าง ๆ รวมถึงบทบาทของแม่น้ำและภูมิศาสตร์ในการเชื่อมโยงชุมชนท้องถิ่นกับภายนอก งานวิจัยยังวิเคราะห์โครงสร้างสังคม ประวัติศาสตร์ชนเผ่า การเปลี่ยนแปลงของชุมชน และการปรับตัวของท้องถิ่นต่อกระแสวัฒนธรรมภายนอก ทำให้ระยองเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ทั้งด้านสังคม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ในบริบทของชายฝั่งตะวันออกของไทย

พหุลักษณ์ของจิตรกรรมฝาผนังริมฝั่งทะเลภาคตะวันออกของไทย

พหุลักษณ์ของจิตรกรรมฝาผนังริมฝั่งทะเลภาคตะวันออกของไทย

ผู้เขียน:สุชาติ เถาทอง, ปรีชา เถาทอง, นพดล ใจเจริญ, อรนงค์ เถาทอง

ข้อมูลทุนวิจัย: ทุนวิจัยจาก สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ  พ.ศ. 2544

วัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบและกระบวนการสร้างสรรค์จิตกรรมฝ่าผนังมังฟ้าในพื้นที่ภาคตะวันออกของไทย โดยเน้นผลกระทบจากปัจจัยทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสังคมต่อการสร้างงานของช่างท้องถิ่น ปัญหาที่พบคือ ขาดการอนุรักษ์ ขาดการสืบสาน และขาดการพัฒนาแนวทางที่เหมาะสม

งานวิจัยนี้ยังมุ่งเน้นการให้ความรู้และสนับสนุนองค์กรท้องถิ่นในการบริหารจัดการศิลปะพื้นถิ่น ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความยั่งยืนของศิลปวัฒนธรรม พร้อมสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างหน่วยงานและชุมชน

จิตรกรรมฝาผนังริมฝั่งทะเลภาคตะวันออก: บทสรุปจากการศึกษาระยะแรก

จิตรกรรมฝาผนังริมฝั่งทะเลภาคตะวันออก

ผู้วิจัย: สุชาติ เถาทอง
ปี: 2544
งานวิจัยนี้ศึกษาจิตรกรรมฝาผนังในภาคตะวันออกของไทย เพื่อวิเคราะห์ศิลปะและความเชื่อท้องถิ่น โดยเน้นพื้นที่ริมฝั่งทะเล พบว่าผลงานศิลปะสะท้อนความเชื่อทางศาสนาและวิถีชีวิตชาวประมงแต่ละท้องถิ่น มีลักษณะเฉพาะตัวทั้งรูปแบบและเนื้อหาสาระ การจัดวางองค์ประกอบและสีสันมีอิทธิพลจากวัฒนธรรมท้องถิ่นและประสบการณ์ชีวิตชุมชน การศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงความหลากหลายและความสำคัญของการอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังเป็นมรดกทางวัฒนธรรม พร้อมเสนอแนวทางศึกษาต่อในระยะยาวเพื่อการเก็บรักษาและเผยแพร่ความรู้ด้านศิลปกรรมท้องถิ่น.

วัดราชบัลลังก การผสานรูปแบบงานสถาปัตยกรรมในเขตชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก

วัดราชบัลลังก การผสานรูปแบบงานสถาปัตยกรรมในเขตชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก

ผู้เขียนศุภวัฒน์ หิรัญวัฒนวิภาชน์

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

บทคัดย่อ ศึกษาจากคำถามเรื่อง “รูปแบบสถาปัตยกรรมไทยในดินแดนชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกเป็นอย่างไร และมีอัตลักษณ์ชัดเจนหรือไม่” โดยสำรวจพุทธศิลป์สถาปัตยกรรมประเภทวัดในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก (ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด) พบว่ามีวัดหนึ่งที่น่าสนใจด้านแนวคิดการออกแบบและมีประวัติศาสตร์กล่าวถึง “วัดราชบัลลังก์” เป็น   สถาปัตยกรรมโบราณสถานผสานศิลปะจีนและตะวันตก เนื่องจาก ชุมชนในขณะนั้นเป็นชุมชนของชาวจีน และ สมเด็จพระเจ้าตากสินมีเชื้อสายจีนและมีความสัมพันธ์อันดีกับจีน

โบราณสถานในจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด.

โบราณสถานในจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด

สำนักศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรี เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากร มีหน้าที่ดูแล อนุรักษ์ และสืบค้นความรู้ด้าน มรดกศิลปะ และวัฒนธรรมของชาติ รวมถึง โบราณวัตถุ และ โบราณสถาน ทั้งยุคก่อนและหลังประวัติศาสตร์ โดยรับผิดชอบพื้นที่ ภาคตะวันออก ๖ จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง และจันทบุรี.

ศิลปกรรมในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกตามพระราชดำริของรัชกาลที่ 4-5

ศิลปกรรมในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกตามพระราชดำริของรัชกาลที่ 4-5

งานวิจัยนี้ศึกษา ศิลปกรรมวัดชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ในรัชกาลที่ ๔ โดยเฉพาะ เจดีย์ทรงระฆัง ที่สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาหรือบูรณปฏิสังขรณ์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ แพร่หลาย มากขึ้นในภูมิภาคนี้ อันเป็นผลจากการเสด็จประพาสหัวเมืองและปัจจัยด้าน สังคม และ วัฒนธรรม ในช่วงสมัยนั้น

รายงานผลการวิจัยเกี่ยวกับระยอง

ความงดงามของชีวิตชาวประมง การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะภาพพิมพ์เพื่อการตกแต่งโรงแรมบารีละไม ตำบลแกลง จังหวัดระยอง

ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการท่าเรือนวลทิพย์ ตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง

โครงการจัดทำหนังสือนำเที่ยวจังหวัดระยองเชิงวัฒนธรรม

โครงการวิจัยข้อมูลชาติพันธุ์และวิถีชุมชนระยอง

โครงการวิจัยด้านศิลปกรรมและงานช่างเมืองระยอง (ระยะที่ 2)

โครงการวิจัยด้านเอกสารโบราณในจังหวัดระยอง

โครงการออกแบบศิลปะสิ่งทอจากภูมิปัญญาการถักอวน

ชาวประมงจังหวัดระยองกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจเฉพาะกรณี ชาวประมงในเขตเทศบาลเมืองระยอง

ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ศิลปะชุมชนและสิ่งแวดล้อม

พระมาลัย การศึกษาเชิงวิเคราะห์

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ ประวัติวัฒนธรรมและธรรมชาติเมืองระยอง

รีแบรนด์ “มีสุขฟาร์ม”

ศักยภาพชุมชนในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ กรณีศึกษาชุมชนสมุทรเจดีย์ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง

สีในแสงบนผืนน้ำปากน้ำระยอง

อิทธิพลทางสังคมและเศรษฐกิจในการอนุรักษ์และปรับปรุงมรดกทางสถาปัตยกรรมชุมชนปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง

แหล่งค้นคว้างานวิจัย

แหล่งค้นคว้างานวิจัยของชมรมร้อยเรื่องเมืองระยอง
ชมรมร้อยเรื่องเมืองระยองนำข้อมูลจากงานวิจัยที่เผยแพร่โดยมหาวิทยาลัย หน่วยงานของรัฐ และองค์กรเอกชน มาประกอบการจัดทำเว็บไซต์ เพื่อเผยแพร่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของจังหวัดระยองอย่างถูกต้องและน่าเชื่อถือ งานวิจัยเหล่านี้เป็นผลงานที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ทำให้ผู้สนใจสามารถสืบค้นและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง ข้อมูลที่นำมาประกอบเว็บไซต์ไม่ได้ผ่านการคัดเลือกหรือปรับแก้ แต่เรียบเรียงให้นำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย และเชื่อมโยงเนื้อหาให้ผู้เข้าชมเห็นภาพรวมของความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของระยอง การอ้างอิงงานวิจัยเหล่านี้ช่วยให้เว็บไซต์ร้อยเรื่องเมืองระยองเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ความรู้ และส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้เชิงวิชาการเกี่ยวกับท้องถิ่นได้โดยตรง

เป้าหมายการขับเคลื่อนงานด้านมรดกวัฒนธรรมของกรมศิลปากรคือ ปกป้องและอนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรม สร้างมาตรฐานคุณภาพ ส่งเสริมการศึกษา วิจัย เผยแพร่ข้อมูล สร้างเครือข่ายรัฐ เอกชน ประชาชน พัฒนาบุคลากร และร่วมมือกับต่างประเทศ เพื่อให้มรดกวัฒนธรรมคงอยู่และเป็นประโยชน์ต่อชาติอย่างยั่งยืน.

กรมส่งเสริมวัฒนธรรมมุ่งรักษา ส่งเสริม มรดกภูมิปัญญาไทย เทิดทูนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พัฒนาค่านิยมและอัตลักษณ์ไทย สนับสนุนศิลปิน งานวิจัย วัฒนธรรมภาพยนตร์และแหล่งเรียนรู้ พร้อมเผยแพร่สู่สากล ส่งเสริมเครือข่ายวัฒนธรรมและเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน.

การจัดตั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อม หน่วยบริหารและจัดการทุนเฉพาะด้าน (PMU) 3 หน่วย ได้แก่ บพค., บพข., และ บพท. เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพิ่มศักยภาพการแข่งขันและพัฒนาประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี.

Chulalongkorn University Intellectual Repository (CUIR) เป็นคลังสารสนเทศเชิงวิชาการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเก็บงานวิจัย วิทยานิพนธ์ โครงการอิสระ งานวิชาการ หนังสือ และบทความของคณาจารย์ นักศึกษา และบุคลากร เพื่อสนับสนุนการศึกษา การวิจัย และเผยแพร่ความรู้สู่สาธารณะ.

คลังสารสนเทศดิจิทัล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TUDC) รวบรวม จัดเก็บ และให้บริการทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลจากงานวิจัย วิทยานิพนธ์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ภายใต้การกำกับของหอสมุดฯ ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้ฟรี เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ การวิจัย และการสงวนทรัพยากรสารสนเทศที่มีคุณค่า.

โครงการของ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดโดยสำนักงานบริหารการวิจัย นวัตกรรม และการสร้างสรรค์ (Silpakorn University Repository : SURE) เป็นคลังจัดเก็บและเผยแพร่ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิทยานิพนธ์ ผลงานทางศิลปะของคณาจารย์ นักวิจัย นักศึกษา และบุคลากรมหาวิทยาลัยในรูปแบบดิจิทัล เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา การค้นคว้า การวิจัย และเผยแพร่ผลงานวิชาการให้เป็นที่ประจักษ์ในแวดวงวิชาการทั่วโลก

สำนักงานศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม มีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนางานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยของไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บูรณาการเครือข่ายศิลปิน ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสร้างคุณค่าใหม่ พร้อมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยสู่สากลอย่างยั่งยืน.

คลังข้อมูลงานวิจัยไทย (TNRR) เป็นแหล่งรวบรวม เผยแพร่ และสงวนรักษาข้อมูลโครงการวิจัย นักวิจัย ผลงานวิชาการ และวิทยานิพนธ์ในรูปแบบดิจิทัล ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ฟรีทั่วโลก เพื่อสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ใหม่ พัฒนานวัตกรรม และส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยทั้งระดับชาติและนานาชาติ.

ศูนย์องค์ความรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สพท.) เป็นแหล่งรวบรวม ถ่ายทอด และเผยแพร่องค์ความรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของประเทศ เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน และเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน และชุมชน.