ร้อยเรื่องเมืองระยอง

หนังสือใหม่ “หนังใหญ่วัดบ้านดอน ฉบับบทกลอน”

“หนังใหญ่วัดบ้านดอน ฉบับ บทกลอน” มรดกที่ยังมีลมหายใจ หนังสือ “หนังใหญ่วัดบ้านดอน ฉบับบทกลอน” เล่มนี้ถือกำเนิดขึ้นจากแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นในการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของจังหวัดระยอง หนังใหญ่วัดบ้านดอนเป็นศิลปะการแสดงที่เก่าแก่และสำคัญของไทย มีประวัติยาวนานกว่า ๒๐๐ ปี เป็นมหรสพชั้นสูงที่สืบทอดจากบรรพบุรุษจนถึงคนรุ่นปัจจุบัน ตัวหนังใหญ่หลายตัวเป็นของเก่าแก่ในยุคแรกเริ่ม และยังคงแสดงถึงรากเหง้าของอารยธรรมที่ชาวบ้านดอนพยายามรักษาไว้ไม่ให้เลือนหายไปตามกาลเวลา หนังสือ “ฉบับบทกลอน” ถือเป็นเล่มแรกและเล่มเดียวที่ถูกเขียนบรรยายประวัติหนังใหญ่วัดบ้านดอนอย่างละเอียดด้วยรูปแบบของ “บทกลอน” โดยรวบรวมข้อมูลอย่างครบถ้วน รวมถึงภาพประกอบในยุคแรกเริ่มที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่เคยพบเห็น การที่เลือกถ่ายทอดด้วยบทกลอนนั้น เป็นการประยุกต์และสร้างมิติใหม่ที่นำเอาลักษณะการเล่าเรื่องแบบโบราณมาผสานกับการอนุรักษ์ สร้างความน่าสนใจและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ต้นกำเนิดของหนังสือเล่มนี้มาจากแรงใจอันบริสุทธิ์ของสามัญชนคนหนึ่งที่ทุกคนเรียกขานว่า “ป้าติด” หรือ “เจ๊ติด” ผู้เป็นแม่ครัววัย ๗๐ กว่าปี ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพขายข้าวแกงจนมีฐานะมั่นคง และที่สำคัญคือท่านมีความสามารถด้านการ แต่งกลอน ป้าติดเริ่มสนใจการแต่งกลอนในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ต้องเก็บตัวอยู่กับบ้าน ทำให้มีเวลาทำในสิ่งที่รักมานานอย่างการประพันธ์กลอน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของบทกลอนหนังใหญ่วัดบ้านดอนที่เธอส่งมาให้ผู้เขียนดู เมื่อผู้เขียน (นางอัญชลี จิตรบรรจง หรือ ครูแห้ว) ได้รับกลอนชุดแรกจากป้าติดซึ่งมีอายุราว ๔-๕ วรรค ก็พบว่ามีสัมผัสที่ผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ด้วยความเคารพ จึงตัดสินใจตอบกลับด้วยกลอนที่แฝงด้วยคำแนะนำไปถึงป้าติด เมื่อป้าติดได้รับกลอนก็เข้าใจทันที และความรู้สึกที่ “ไม่เป็นปรกติ” จากการทำผิดพลาดในวันนั้น กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้นักกลอนท่านนี้มีความมุ่งมั่นตั้งใจเรียนรู้เพิ่มเติม จนสามารถพัฒนาตนเองเป็นนักกลอนที่มีผลงานคุณภาพได้ในที่สุด ผู้ประพันธ์หลักของหนังสือคือ “กรีชาบวร” ผู้เป็นคนคุ้นเคยกับ “ป้าติด” และได้ร่วมงานเขียนหนังสือเล่มนี้มานานกว่า ๒๐ ปี เจ๊ติดคือบุคคลสำคัญที่เคยบริจาคเงินจำนวนมากเพื่อสนับสนุนหนังใหญ่วัดบ้านดอน ทั้งยังเป็นผู้ชักชวนผู้บริจาครายอื่น ๆ และบริจาคตัวเองลงแรงอย่างต่อเนื่อง ความผูกพันอันยาวนานนี้เอง ทำให้กรีชาบวรเข้าใจถึงความชื่นชมในบทกลอนของป้าติด และได้ขอข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์หนังใหญ่เพื่อนำไป แต่งบทกลอนประวัติหนังใหญ่ ให้เป็นเรื่องราวที่สละสลวยและอ่านได้ง่าย กรีชาบวรได้ใช้ความพยายามอย่างสูงในการเรียบเรียงเรื่องราว โดยรวบรวมข้อมูลจากทั้งหนังสือเล่มเล็ก หนังใหญ่วัดบ้านดอน เอกสารของ อาจารย์อำไพ […]

ภูมิปัญญาระยองทางวัฒนธรรม

ภูมิปัญญาท้องถิ่นระยอง : รากเหง้าแห่งความภาคภูมิ เมื่อเรามองระยองในสายตาของผู้ผ่านทาง อาจเห็นเพียงเมืองอุตสาหกรรมที่พลุกพล่านด้วยโรงงานและท่าเรือสมัยใหม่ ทว่า หากมองด้วยหัวใจที่อ่อนโยน เราจะพบว่าระยองคือแผ่นดินแห่งเรื่องเล่า วิถี และภูมิปัญญา ที่สืบต่อจากบรรพชนมาจนถึงวันนี้ ภูมิปัญญาเหล่านี้ไม่จำกัดอยู่เพียงในงานหัตถกรรมหรือพิธีกรรม หากแต่ปรากฏในทุกอณูของชีวิต ตั้งแต่รสชาติของผลไม้เมืองร้อนที่ต้องอาศัยความรู้ในการดูแลดินฟ้าอากาศ การแปรรูปอาหารทะเลให้คงรสชาตินานวัน จนถึงเสียงเพลงรำวงที่ก้องกังวานในค่ำคืนยามชุมชนมารวมตัวกัน ทั้งหมดนี้คือมรดกที่คนระยองสร้างขึ้นด้วยความรักและความผูกพันต่อแผ่นดิน บางครั้งสิ่งเหล่านี้มิได้ถูกบันทึกหรือกล่าวถึงในเวทีใหญ่โต จนผู้คนนอกพื้นที่อาจไม่ตระหนักถึงคุณค่า ทว่า ความจริงแล้วภูมิปัญญาไม่เคยเลือนหาย มันยังคงซ่อนอยู่ในสำรับอาหารพื้นบ้าน ในสำเนียงถ้อยคำ และในเสียงดนตรีที่ยังมีชีวิตอยู่ในใจผู้คน การกล่าวถึงภูมิปัญญาในเวทีสาธารณะ จึงมิใช่เพียงการจารึกอดีต หากแต่เป็นการยืนยันตัวตนของชุมชน และสร้างแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นใหม่ ว่าสิ่งที่บรรพชนสร้างไว้นั้นทรงคุณค่าเพียงใด การยกย่องเช่นนี้ทำให้เราตระหนักว่า ระยองมิใช่เพียงเมืองชายทะเลหรือฐานเศรษฐกิจ หากแต่คือถิ่นที่โอบอุ้มทั้งความรู้ ศิลปะ และวิถีแห่งความงาม ในแง่นี้ การบอกเล่าภูมิปัญญาไม่ใช่เพียงการสั่งสมความทรงจำ แต่คือการปลุกความภาคภูมิใจในหัวใจคนระยอง ให้รู้ว่าตนยืนอยู่บนมรดกที่ล้ำค่าและเป็นเอกลักษณ์ หาได้ยากในที่อื่น ความภูมิใจเช่นนี้จะเป็นพลังเงียบที่ผลักดันให้คนในถิ่นร่วมกันสืบสานและต่อยอด ระยองมีทั้งเสียงเพลงที่ชวนให้รำวง มีรสชาติผลไม้ที่ฝากชื่อเสียงไปทั่วประเทศ มีภาษาและคำพูดที่บ่งบอกความเป็นถิ่นฐาน ทั้งหมดนี้คือภาพสะท้อนภูมิปัญญาที่ควรค่าแก่การบันทึกและการสืบต่อ เพราะมันไม่ใช่เพียงของเก่า หากแต่คือรากฐานที่ทำให้สังคมยืนหยัดได้อย่างมั่นคง และสุดท้าย ภูมิปัญญาเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่หยุดนิ่ง หากแต่ปรับตัวและเติบโตตามกาลเวลา การยกย่องและระลึกถึงภูมิปัญญาจึงมิใช่เพียงการหันกลับไปมองอดีต แต่คือการมองไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง ว่าระยองจะยังคงงดงามทั้งในฐานะเมืองแห่งอุตสาหกรรม และในฐานะถิ่นแห่งวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่งดงามไม่แพ้กัน

หนังใหญ่ไทยสู่ยูเนสโก

หนังใหญ่ไทยสู่ยูเนสโก: การฟื้นฟูมรดกทางวัฒนธรรมหนังใหญ่โดยชุมชน ในค่ำคืนหนึ่งที่เงียบสงัดของชุมชนภาคกลาง เสียงปี่พาทย์แผ่วเบาเป็นจังหวะคอยนำทางให้สายตาของผู้คนหลงใหลอยู่ในแสงเงาที่ทอออกมาจากตัวหนังใหญ่ หนังใหญ่เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงเศษไม้แกะสลักและผ้าขาวที่ขึงตึง แต่เป็นมหรสพโบราณที่สืบทอดมานับพันปี เรื่องราวของรามายณะหรือรามเกียรติ์ถูกพาผ่านฝ่ามือของช่างฝีมือ ผู้พากย์ที่ใช้ถ้อยคำร้อยกรองราวกับบทกวี และนักดนตรีที่ตีความทุกเสียงให้มีชีวิต ความเคลื่อนไหวและเงาของตัวหนังใหญ่ไม่เพียงสะท้อนตำนานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ และจิตวิญญาณของคนไทยในแต่ละยุคสมัย ย้อนกลับไปในสมัยอยุธยา ตัวหนังใหญ่ปรากฏอยู่ในพระราชสำนัก เป็นมหรสพชั้นสูงที่ใช้แสดงในพระราชพิธีของเจ้านายและพระมหากษัตริย์ ก่อนจะแพร่กระจายสู่ชุมชนชาวบ้านที่นำเค้าโครงจากมหรสพหลวงมาดัดแปลงให้เข้ากับวิถีชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การแสดงในวัดต่าง ๆ ไปจนถึงงานประเพณีท้องถิ่นในภาคกลางและภาคตะวันออก การเล่นหนังใหญ่ไม่ใช่เพียงความบันเทิง แต่เป็นพื้นที่เรียนรู้ทางศิลปะและวัฒนธรรมที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น นักวิชาการและช่างฝีมือที่ชื่อเสียงถูกจารึกในประวัติศาสตร์ เช่น อาจารย์ฤทธิ์ หลวงพ่อฤทธิ์ ครูเลิศ และครูผิน ได้ร่วมกันสร้างตัวหนังใหญ่และฝึกสอนศิลปะนี้ให้กับชุมชน เพื่อให้ศิลปะการแสดงนี้ไม่สูญหายไปกับกาลเวลา กาลเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเข้ามาของมหรสพสมัยใหม่ เช่น ภาพยนตร์และละครเวที ทำให้ความนิยมหนังใหญ่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ความพยายามในการฟื้นฟูโดยชุมชนไม่เคยหยุดยั้ง หนังใหญ่ที่ยังคงแสดงอยู่มีเพียงสามแห่ง ได้แก่ วัดขนอน จังหวัดราชบุรี วัดบ้านดอน จังหวัดระยอง และวัดสว่างอารมณ์ จังหวัดสิงห์บุรี ในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมา ชุมชนเหล่านี้ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการอนุรักษ์ตัวหนังโบราณ สร้างตัวหนังชุดใหม่ ฝึกนักแสดงรุ่นใหม่ และจัดการแสดงที่ผสมผสานวิถีดั้งเดิมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การใช้ไฟฟ้าแทนกะลามะพร้าว แต่ยังคงรักษาแก่นสารแห่งแสงและเงาที่เป็นเอกลักษณ์ของหนังใหญ่ ไม่เพียงเท่านั้น การฟื้นฟูหนังใหญ่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายทางสังคมที่เข้มแข็ง เชื่อมโยงวัด […]

พูดจาภาษาระยอง

พูดจาภาษาระยอง: เสียงวิทยุที่สืบสานอัตลักษณ์ท้องถิ่นกว่า 40 ปี ยุคที่สื่อออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว หลายสิ่งในวิถีชุมชนเริ่มถูกกลืนหายไป แต่ยังมีหนึ่งเสียงที่ดังอย่างมั่นคงมานานกว่า 40 ปี นั่นคือ รายการ “พูดจาภาษาระยอง” โดย ทวีป ขวัญบุรี นักสื่อสารผู้ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อรักษาภาษาถิ่นและวัฒนธรรมระยองไม่ให้เลือนหาย รายการนี้ออกอากาศทาง สถานีวิทยุสื่อกลาง ทุกวันอาทิตย์ เวลา 06.00–07.00 น. พร้อมทั้งถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live และ YouTube เพื่อให้ผู้คนทั้งในและนอกจังหวัดสามารถร่วมรับฟังได้ทุกที่ทุกเวลา เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่คำศัพท์ถิ่นโบราณ เรื่องเล่าชุมชน ไปจนถึงวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่สะท้อนความเป็น “ระยองแท้” ได้อย่างลึกซึ้ง สิ่งที่ทำให้ “พูดจาภาษาระยอง” แตกต่าง คือการนำเสนอภาษาถิ่นแบบมีชีวิตชีวา ไม่เพียงแต่บอกเล่าความหมาย แต่ยังสอดแทรกเรื่องราว ความทรงจำ และเสียงหัวเราะที่ผูกพันกับผู้ฟังมายาวนาน ทั้งยังเป็นเวทีที่ช่วยปลูกฝังเยาวชนและคนรุ่นใหม่ให้หันกลับมาภูมิใจในรากเหง้าของตนเอง ในวันนี้ รายการก้าวเข้าสู่ปีที่ 43 ยืนยันถึงพลังความรักในถิ่นฐานบ้านเกิดของผู้จัด และการสนับสนุนจากผู้ฟังที่ยังเหนียวแน่น การติดตามและส่งต่อรายการนี้ ไม่เพียงเป็นการอนุรักษ์ภาษา แต่ยังเป็นการร่วมกันรักษา “สมบัติทางวัฒนธรรม” ที่จะส่งต่อให้คนรุ่นหลัง หากคุณรักเมืองระยอง รักภาษาถิ่น […]

คุยเฟื่องเรื่องพิพิธภัณฑ์

รายการ “คุยเฟื่องเรื่องพิพิธภัณฑ์” https://www.weavingrayongtales.com/wp-content/uploads/2025/09/คุยเฟื่องเรื่องพิพิธภัณฑ์.mp4 ชมวิดิทัศน์รายการ คุยเฟื่องเรื่องพิพิธภัณฑ์ ep3  28 กันยายน 2568 คุยเฟื่องเรื่องพิพิธภัณฑ์ ep2  21 กันยายน 2568 คุยเฟื่องเรื่องพิพิธภัณฑ์ ep1  7 กันยายน 2568 รายการ “คุยเฟื่องเรื่องของพิพิธภัณฑ์” โดย ธงชัย ขวัญบุรี นำเสนอกรณีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นอย่าง หนังใหญ่วัดบ้านดอน จังหวัดระยอง เพื่อสะท้อนบทบาทของพิพิธภัณฑ์ในฐานะแหล่งรวบรวมและอนุรักษ์วัตถุทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปกรรมเฉพาะถิ่น ดำเนินการโดยชุมชนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายการเน้นการเปิดเผยถึงกระบวนการจัดเก็บและจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์ ทั้งจากแง่มุมของการสั่งสมวัตถุ การรักษาสภาพ (preservation) และความสวยงามในรูปแบบการจัดแสดงที่สามารถดึงดูดผู้ชม ทั้งคนท้องถิ่นและผู้สนใจจากภายนอก เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้และสร้างความภูมิใจในจิตสำนึกชุมชน อีกประเด็นหนึ่งที่ถูกหยิบยกคือความท้าทายในการดูแลพิพิธภัณฑ์ เช่น งบประมาณ การรักษาอุณหภูมิและความชื้นของวัตถุศิลปะ การป้องกันการสึกกร่อนหรือการทำลายจากสภาพแวดล้อมหรือผู้ชม วิธีการแก้ปัญหารวมถึงการฝึกอบรมบุคลากรท้องถิ่น และการหาแนวร่วมกับเครือข่ายภายนอก เช่น นักวิชาการ สถาบันศิลปวัฒนธรรม รายการยังชวนให้คิดถึงอนาคตของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นว่า จะสามารถมีบทบาทในเชิงการศึกษาเชิงพื้นที่ เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชนและชุมชน ใช้พิพิธภัณฑ์เป็นศูนย์กลางในการฟื้นฟูและถ่ายทอดความรู้พื้นบ้าน และอาจเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อสร้างรายได้แก่ท้องถิ่น โดยรวม “คุยเฟื่องเรื่องของพิพิธภัณฑ์” เป็นการย้ำเตือนว่า […]

โครงการกิจกรรมวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2568

โครงการกิจกรรมวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2568 จัดโดย กองการศึกษา เทศบาลตำบลบ้านเพ เทศบาลตำบลบ้านเพเล็งเห็นถึงความสำคัญของเยาวชนในฐานะทรัพยากรบุคคลที่เป็นอนาคตของชาติ จึงได้จัดกิจกรรมวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2568 ขึ้น เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น และปลูกฝังความภาคภูมิใจในรากเหง้าวัฒนธรรมบ้านเพ กิจกรรมประกอบด้วย การอนุรักษ์และพัฒนาดนตรีพื้นบ้าน โดยนำเสนอการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เพลงเอ่ย เพลงไอ้เป๋ และลำตัด เพื่อให้เยาวชนได้สัมผัสเสน่ห์ของศิลปะการแสดงดั้งเดิม และตระหนักถึงคุณค่าของดนตรีที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตชาวบ้านเพมาอย่างยาวนาน อีกหนึ่งไฮไลท์คือ การบรรยายเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น ในหัวข้อ “แผ่นดินถิ่นเกิด” ซึ่งจะช่วยให้เยาวชนและผู้เข้าร่วมได้เข้าใจความเป็นมาของบ้านเพ ทั้งประเพณี วิถีชีวิต และความผูกพันของผู้คนกับแผ่นดินบ้านเกิด อันเป็นการสร้างความภาคภูมิใจและสำนึกรักบ้านเกิดในใจเยาวชน นอกจากนี้ยังมี การสาธิตการสวดพระมาลัยและทำนองลำสวด ที่สะท้อนมิติทางศาสนาและศิลปะการขับร้องเชิงวัฒนธรรม เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้พิธีกรรมและดนตรีเชิงศาสนา ซึ่งเป็นรากฐานทางจิตวิญญาณและศีลธรรมของสังคมไทย กิจกรรมทั้งหมดจะจัดขึ้น ณ ห้องประชุมอาคารห้องสมุดประชาชนเทศบาลตำบลบ้านเพ ตำบลบ้านเพ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ในวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2568 โดยมุ่งหวังให้เกิดทั้งการเรียนรู้ สนุกสนาน และสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนบ้านเพและประชาชนที่เข้าร่วม https://www.weavingrayongtales.com/wp-content/uploads/2025/09/780068264.782659.mp4

“ยกระดับชุมชนตลาดบ้านเพ เป็นมรดกจังหวัดระยอง”

“พุทโธ พุทธัง ว่าอนิจจังแก้วตาบ้านเพ นั้นมันน้ำตื้น แม่น้องงามชื่น จะเดินก้าวหน้าบ้านเพ นั้นมันที่ทราย มีอะไร มันก็มีแต่ปลาไม่มีหมึกมีปลา ที่ไหนจะว่าย บ้านเพน้ำตื้น ได้แต่กลืนน้ำลาย” การแสดงเพลงพื้นบ้านตำบลเพ “เพลงเอ่ย” และ “ลำตัด” เพลงพื้นบ้านตำบลเพที่สะท้อนวิถีชีวิตของชุมชนตลาดบ้านเพ จังหวัดระยอง ซึ่งมีเอกสารการรวบรวมบทเพลงต่าง ๆ จากพ่อเพลง แม่เพลง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๓ โดยพ่อเพลง แม่เพลงในสมัยนั้น ได้แก่ นายย้อย ศักดิ์เมือง นายจำลอง อัฐโส นางเนิน ผัดผ่อง นางชูจิตร บำรุงพงษ์ เพลงเอ่ย นับได้ว่าเป็นมรดกเพลงพื้นบ้านที่ได้สูญหายไปจากวิถีชีวิตและความทรงจำของชุมชนตลาดบ้านเพมานาน การแสดงในโอกาสนี้นับเป็นการรื้อฟื้นเพลงพื้นบ้านของชาวตำบลบ้านเพในรอบ ๔๕ ปี ที่เงียบงัน ให้กลับมามีเสียงอีกครั้ง “เรือน้อยลอยคว้าง ยังไม่ถึงฝั่งลอยอยู่กลางกระแสสินธุ์ถึงยามวิบัติคลื่นซัดโผงผาง (ซ้ำ) เรือลำน้อยลอยคว้างอยู่กลางวาริน” ลำตัดเรื่องเกาะต่าง ๆ ในแถบชายทะเลภาคตะวันออกของไทย สำนวนนายจำลอง อัฐโส ชาวบ้านเพ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง […]

การแสดงเพลงไอ้เป๋ งานสุนทรภู่ ที่คนระยองไม่รู้จัก

การแสดงเพลงไอ้เป๋ งานสุนทรภู่ ที่คนระยองไม่รู้จัก นิทรรศการ “สุนทรภู่ ที่คนระยองไม่รู้จัก ในแบบของคนรุ่นใหม่ หัวใจรุ่นเก่า” เปิดโอกาสให้คนระยองและผู้สนใจได้ทำความรู้จักกับ สุนทรภู่ ระยอง ในมิติใหม่ ๆ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวพระอภัยมณี นางยักษ์ หรือนางเงือกที่เราคุ้นเคย แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นกวีเอกที่ผูกพันกับท้องถิ่นระยองมายาวนาน หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า เราได้อะไรจากการมีคำว่า “สุนทรภู่กวีเอก” อยู่ในคำขวัญประจำจังหวัดระยอง หรือเคยสงสัยว่า “นิราศเมืองแกลง” ที่สุนทรภู่แต่งขึ้นเมื่อเดินทางมาระยองนั้นสำคัญอย่างไร นิทรรศการครั้งนี้จะพาเรามองเห็นคุณค่าของ สุนทรภู่ ระยอง ผ่านสายตาคนรุ่นใหม่ที่ยังคงรักษาหัวใจรุ่นเก่า ถ่ายทอดเรื่องราวของครูกวี ๔ แผ่นดิน ที่ผลงานยังคงสืบสานและต่อยอดมาจนถึงปัจจุบัน ไฮไลท์ของงานคือการจัดแสดง สมุดไทยโบราณฉบับตัวเขียน เรื่องพระอภัยมณี อายุเอกสารสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งถือเป็นวรรณกรรมชิ้นเอกของสุนทรภู่ นิทรรศการนี้เปิดให้ชมยาว ๆ ตลอด 2 เดือน ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ณ ร้าน หลานเอก คอฟฟี่เฮาส์ – Laan Ek Coffeehouse นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสวนา “สุนทรภู่ ที่คน(ระยอง)ไม่รู้จัก” ในวันที่ […]